ความรู้สึกที่มีค่า คือความรู้สึกที่สัมผัสได้ด้วยใจ

30 ธันวาคม, 2551

การแข่งขันกีฬาระบบไตรภาค (13 ธ.ค.51)



กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮ่าๆๆๆๆๆ




อ้าว... ฟังกันหน่อยประธานจะพูดแล้ว




ดีมากๆ ตั้งใจฟังกันดีจัง



จริงจังหน่อย! อ้าวโยนนนนน....



ออกแรงหน่อยจ้า...เทคโนฯ สู้ สู้




กองเชียร์เกร้งแย่เลย ระวังตะคิวนะจ๊ะ



เอาจับไปวิ่งไปนะจอย



สัมนาโสตเทคโนฯ ครั้งที่ 23 (11-12 ธันวาคม)


การไปสัมนาครั้งนี้มีขึ้นในวันที่ 11-12 ธันวาคม ซึ่งก่อนหน้านี้เราจะรู้กันว่ามีงานศิลปหัตถกรรม 7-9 ธ.ค.51 ที่ จ.ลำปาง ซึ่งแอนเองก็ต้องพาเด็กๆ ไปแข่ง เช่นกัน วันที่ 5-6 ธค. 51 ยังมาเรียนอยู่ เดินทางไป
ลำปางตอนเที่ยงคืน ถึงลำปางตีสี่ รอจนเช้า โดนรถตู้โรงเรียนทิ้งอีก กับเด็ก 7 คน อยู่ลำปางเหนื่อยมาก
วันที่ 10 กลับไปนอนบ้านกับแม่คืนหนึ่ง บ่ายๆก็นั่งรถมาพิษณุโลก ถึง 2ทุ่ม เล่าไปเหนื่อยไป...เหอะๆๆ
มาถึงมอนอ ก็มาซ้อมรำศิลามณีอีกถึง เที่ยงคืน เหนื่อยมาก ปวดขาสุดๆๆ (ท่องไว้ ...อดทน..อดทน) พอถึงเวลาขึ้นรถ ก็หลับตลอดทาง แต่ที่ทุกคนต่างสนุกสนานกัน ก็ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสุดหรูที่ปั้มน้ำมันนี่ละ (คิดๆ ไปก็ขำดี ช่วงนี้มีไรให้ตื่นเต้นตลอดเลย..แหะๆๆ)
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเราก็ไปแวะทานข้าวกันก่อน (ไม่ได้ถ้าเทคโนจะไม่ถ่ายรูป...กล้อง...กดกันใหญ่)
สักพัก 8.00 น. ก็ถึงเวลาเข้าประชุมสัมนา การตอนรับในงานก็ดีนะค่ะ ได้กระเป๋าด้วย (มาจาก 500 เราป่าวน่า) สัมนาไปหลับตื่นๆๆ(แต่น่าจะหลับกว่าตื่นนะ) แต่ที่ทำให้ตื่นก็อาหารกลางวันนี่ละ (อร่อยจริงๆ...น่า)
กินอิ่มแล้ว ศิลามณีก็ต้องไปซ้อมแล้ว (จะบอกว่ายกขายังลำบากเลย ...คืนนี้จะรอดป่าว..อ้าวสู้ก่อน)
เหล่าศิลามณีไปซ้อมได้แล้ว (สถานที่ : ข้างๆรถคณะ) ซ้อมเสร็จ แบบงงงง.
พักก่อนเด๋วมาต่อวันหลัง ......................

เขื่อนแก่งเจ็ดแคว


บทความที่ทรงคุณค่าแห่งการจดจำ ณ เขื่อนเจ็ดแคว

นางสาวภัทราภรณ์ โรจนโรวรรณ
ประทับใจภาพที่สวยงามของขบวนรถของเราชาวเทคโนฯไปที่เขื่อนเจ็ดแควสถานที่ บรรยากาศและทัศนียภาพสวยงามของเขื่อนแควน้อย สนุกกัยกิจกรรมรอบกองไฟ ได้แก่กิจกรรมการสร้างผลงานศิลปะโดยใช้นิ้วของอ.จิรวัฒน์ ได้ข้อคิดที่ดีในกิจกรรมต่อหลอดจนกิจกรรม AAR เป็นกิจกรรมในการสร้างสัมพันธ์ การแลกเปลี่ยนความคิดที่ดีแก่กันของเราชาวเทคโนฯรุ่น10

นายเกรียงศักดิ์ กาละภักดี
เป็นการเรียนรู้ที่สามารถให้สมองได้พักผ่อน เพราะก่อนไปนั่งลุ้นกับงานวิจัยที่ให้ออกไปพูดหน้าห้อง ซึ่งไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้า พอไปถึงก็ประทับใจในกิจกรรมต่างๆที่ตัดทำขึ้นมา เพื่อให้เกิดความสามัคคีของแต่ละคนถือได้ว่ากิจกรรมครั้งนี้ สนุกมากและประทับใจเพื่อนๆ พี่ๆทุกคน

นางสาวคนึง พันธุ์โท
ความกังวลก่อนไป....ก่อนไปก็รู้สึกแย่ เพราะว่าฉันแพ้เรื่องการวาดรูป หลังจากเสร็จกิจกรรม...รู้สึกดี ซึ้ง กินใจ เหมือนได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเพื่อนๆ มามากกว่า 1 ภาคเรียน ...จะจดจำสิ่งดีๆ ที่ได้รับไว้ตลอดไป...ขอบคุณทุกๆ คนที่ทำให้มีกิจกรรมในวันนั้น

นางสาวธิดาพรรณ วณิตย์ธนาคม
กิจกรรมนี้น่าประทับใจมาก โดยเฉพาะกิจกรรมวาดภาพ เป็นอะไรที่สนุกมาก ได้แนวคิด และ ความสบายใจ ไม่คิดว่าแค่การวาดภาพโดยที่ไม่ต้องเตรียมตัว หรือ ใช้อุปกรณ์อะไรเลย จะแฝงอะไรไว้ได้เยอะขนาดนี้ ขอขอบพระคุณ อ.จีระวัฒน์ ที่ให้ความรู้ใหม่ๆ และ อ. รุจโรจน์ ที่จัดกิจกรรมนี้ การเรียนนอกห้องเรียนไม่ใช่ได้แค่ความรู้แต่ได้ความรู้สึกดีๆ และความทรงจำดีๆ อีกด้วยคะ

นางสาวภัทธิราพร ชะม้าย
ความประทับใจที่ได้เห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การปลดปล่อยภาระหนักๆ ที่แบกไว้ตลอดเวลาบนบ่าทั้งสองข้าง ขอบคุณประสบการณ์และความอบอุ่นที่แสนดี ที่พวกเรามอบให้แก่กัน

นางมาลี เพชรพิพัฒน์
จากกิจกรรมที่อาจารย์จัดให้ ประทับใจตั้งแต่การเดินทาง การร่วมกิจกรรมต่าง ๆ การนอน การกินร่วมกัน รู้สึกมีความุขสนุกกับการเรียน เลยได้ข้อคิดดี ๆว่าถ้าเรานำกิจกรรมที่เราเรียนรู้เหล่านี้ไปใช้กับการเรียนการสอนที่โรงเรียนเด็ก ๆ คงมีความสุข เพราะได้ทำในสิ่งที่เราชอบไม่มีการบังคับ ทุกอย่างต้องทำด้วยใจ และทำอย่างมีความสุข สิ่งที่ได้มาไม่ใช่แค่เพียงรูปภาพที่เราวาดกันด้วยตัวเองเท่านั้น แต่เราได้กระบวนการถ่ายทอดความรู้ที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่คงทน โดยที่เราไม่ต้องท่องจำ ไม่ต้องปวดหัวว่ากลัวจะทำไม่ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้คะแนนไม่ดี แต่เราได้ความรู้ที่เกิดจากความสุข

นางสาววรัญญา รัตนวราหะ
การเดินทางไปเขื่อนแควน้อยร่วมกับพี่ๆเพื่อนๆชาวเทคโนรุ่น 10 และอาจารย์ ครั้งนี้ การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกสบายคณะเราเดินทางไปพร้อมกับบรรยากาศยามเย็นเมื่อพระอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า การร่วมทำกิจกรรมวาดรูปเป็นกิจกรรมที่แสนจะประทับของข้าพเจ้า (แม้ว่ารูปจะออกมาจะดูไม่รู้เรื่อง..แต่ก็สวยนะ..) การไปทำกิจกรรมครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้รับรู้ถึงความรัก ความสามัคคีกันในหมู่เพื่อนมากขึ้น ข้าพเจ้าขอเก็บความทรงจำดีๆเหล่านี้ไว้ในใจตราบนานเท่านาน...

นางสาววรารัตน์ ทัศนมานะ
ถือว่าเป็นประสบการณ์อันดีในการเรียนรู้ เนื่องจากการเรียนที่หนักหนาก็ทำให้การใช้ชีวิตทั้งเรียนและทำงานด้วย มันเหนื่อเหลือเกิน การไปครั้งนี้ทำให้เราได้ปลดปล่อยอารมณ์และความเครียดออกจากตัวและสมองไปทันที ได้รู้ถึงการทำงานเป็นทีมและการเรียนรู้ถึงนิสัยของแต่ละคน ถือว่าคุ้มทีเดียวในการเรียนรู้นอกสถานที่ครั้งนี้

นางวัชรินทร์ นาสา
ความรักเหมือนกับ... ท้องฟ้า ที่จะอยู่กับเราไปทุกที แสงแดด ที่จะให้ความอบอุ่นกับเราเสมอ ต้นไม้ ที่เราต้องดูแลและใส่ใจ(ด้วยรัก) ….กับความประทับใจ บรรยากาศเย็นๆ กับงานศิลปะและเสียงเพลงบรรเลง ท่ามกลางขุนเขา...การเรียนรู้..ณ อุทยาทแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว...พวกเราชาวเทคโนฯ 10 ทุกคน...”เพื่อน” มิตรภาพที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย กับภาพความทรงจำดีดี...
ควรที่จะเก็บรักษาเอาไว้อย่างนี้...ตลอดไป

นายสมนึก แสงอบ
การไปศึกษานอกสถานที่ผมมีความรู้สึกถึงกิจกรรมต่างๆที่นำมาร่วมให้เล่น ทำให้คนมีความสามัคคีและการวาดรูปถือได้ว่าเป็นการปลดปล่อยความเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งอาทิตย์ได้เลยทีเดียว มีอะไรมากกว่าแค่การวาดรูปอาจารย์สอนให้เรารู้จักคิดและหยุดกับปัญหาและปลดปล่อยเราเพื่อผ่อนคลายกับความเครียด

นายสมบูรณ์ สนมฉ่ำ
ก่อนไป...รู้สึกว่าทำไมต้องไป ไปแล้วได้อะไร จะไปพักอย่างไร ต้องมีค่าใช้จ่าย มีกิจกรรมสำคัญๆอะไรบ้าง... ระหว่างเดินทาง..คิดว่าเราได้ประสานงานกับอ.ชัยฤกษ์ สุดสังข์ มูลนิธิบูรพา 02 (อ.อิ๋ว)ช่วยดำเนินการนำคณะเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแควที่เขื่อนแควน้อย..ได้รับบริการเป็นอย่างดี..ขอกลองได้แต่ลืมนำลงมาจากรถ
หลังไป..มีความสุข.ได้ร่วมกิจกรรมกับคณะ..เห็นอกเห็นใจและเข้าใจกันมากขึ้น.ร่วมกันทำงานรู้ซึ้งนิสัยใจคอแต่ละคนมากขึ้นและมองคนในแง่ดีนับว่าเป็นกิจกรรมที่คุณค่ามากๆๆ

นางสาวสุทิศา เมฆพัฒน์
จากใจที่ได้ไปเขื่อนแควน้อย ตอนแรกคิดว่าจะเป็นกิจกรรมเงียบๆ วิชาการ แต่จริงๆแล้วเมื่อมาถึงเป็นกิจกรรมผ่อนคลาย ฝึกสมาธิสนุก และทำให้ทึกคนมีสานสัมพันธ์กันมากขึ้นสามัคคีกัน ในธรรมชาติแห่งนี้วิวสวยงามมาก ชอบมากที่สุดในการนอน กางเต็นท์เป็นอะไรที่ธรรมชาติมากๆ

นางสาวสุพร ปัญญาปา
รู้สึกตื่นเต้น สนุกที่จะได้เที่ยวออกค่าย ได้นอนในเต้นท์ ชื่นใจกับบรรยากาศของเพื่อนๆที่ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ประทับใจ อ.รุจโรจน์ ที่ให้ความเป็นกันเองกับนิสิต ขอให้พี่จิตรินทร์สู้ๆ เป็นหัวหน้าห้องคนเก่งตลอดไป

นายอภินันท์ สอนสะอาด
ในค่ำคืน คืนหนึ่งที่เป็นเวลาที่เงียบสงบไปด้วยการทำสมาธิปล่อยใจให้ว่างและใช้จินตนาการพร้อมที่จะทำกิจกรรมรวมกันเป็นหมู่คณะเพื่อสร้างความสามัคคีร่วมกันทั้งห้อง กิจกรรมทีได้ทำในค่ำคืนนี้เป็นกิจกรรมวาดรูปเป็นศิลปะอีกแบบหนึ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่เราได้ออกมาทำกิจกรรมนอกสถานาที่เป็นกิจกรรมที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ได้จากธรรม ได้จากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวเรา กิจกรรมที่จบลงในค่ำคืนนี้ทุกคนมีความสุขและประทับใจในสิ่งที่ได้ทำ พบกันใหม่โอกาสหน้า

นางสาวมลฤดี วงค์พิมพ์
ก่อนไป : รู้สึกเครียดๆ เพราะไม่รู้เราจะไปทำอะไรได้และพวกเราเทคโรฯผู้หญิงเยอะ...จะไหวมั้ย
หลังไป : เอ้อ..พวกเรานี่เก่งอ่ะนะ..และสังเกตว่าเรารักกัน สามัคคีกันมากขึ้น..เกินคาดจริงๆขอบคุณทุกคน และขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ

นางสาวกชพร แก้วกิ่งจันทร์
ความรู้สึกในการเข้าค่ายที่เขื่อนเจ็ดแควในครั้งนี้ มีความรู้สึกประทับใจหลาย ๆ อย่าง ประทับใจเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ รวมทั้งอาจารย์ด้วยให้ความเป็นกันเอง และทุกคนมีความสุขในการเข้าค่ายที่เขื่อนเจ็ดแคว ประทับใจในบรรยากาศได้เห็นพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น และเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า เป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก อยู่ที่บ้านในตอนเช้าก็ยุ่ง ๆ ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกเลย และประทับใจในการวาดรูป โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นพู่กัน ดินสอ ปากกา ยางลบ ใช้นิ้วทั้ง 5 ที่มีอยู่จุ่มสีและจิ้มลงไปในเฟรมได้เลยตามใจชอบ ในขณะที่ทำไม่มีความรู้สึกวิตกกังวลอะไรเลย ไม่วิตกกังวลว่าจะทำได้ไหม มีความรู้สึกที่สบายๆ โล่ง มีความสุข อยากจะกดสีหรือจิ้มสีลงตรงไหนได้ก็ได้ ไม่มีกฎ ไม่มีเกณฑ์ ไม่มีระเบียบแบบแผน ไม่มีการบังคับ แต่ผลงานที่ออกมาสวยงามเป็นที่ถูกใจและพอใจเป็นอย่างมาก และมีความสุข และคิดว่าจะนำวิธีการนี้ไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน

นางสาวกรรณิการ์ อุดถา
การไปแคมป์ครั้งนี้มีความหมาย และควรค่าแก่การจดจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะกิจกรรมทุกกิจกรรมเราร่วมกันทำด้วยความตั้งใจ โดยเฉพาะ “ศิลปะบำบัด”ของ อ.จิราวัฒน์ ไม่เคยวาดรูปครั้งไหนแล้วรู้บันเทิงอะไรขนาดนี้เลยค่ะ และขอขอบคุณอาจารย์รุจโรจน์ที่สร้างสรรค์กิจกรรมและบรรยากาศดีๆแบบนี้ให้แก่พวกเรา ซึ่งเราทุกคนต่างตอบได้เป็นเสียงเดียวกันว่าเราทุกคนประทับใจ...

นางขนิษฐา อุมาลี
ประทับใจมาก กิจกรรมวาดภาพ เป็นกิจกรรมที่เราชอบมาก เพราะในการที่เราทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจจะปรารถนานั้น ทำให้มีความสุขมากเลย ประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้ทำให้รู้สึกว่าไม่เคยได้รับที่ไหนมาก่อนเพราะทุกครั้งที่เข้าร่วมกิจกรรมเราต้องคอยควบคุมดูแลนักเรียน ไม่เคยได้เป็นนักเรียนมานานกว่า ยี่สิบปีแว้ว อิอิ เลยทำให้รู้สึกเป็นเด็กอีกครั้งด้วยนะคงประมาณ สิบหกอีกครั้งอ่ะ สบายใจมากด้วย บรรยากาศก็ดี ไม่ต้องเดินทางไกลเกินไป และแถมยังมีสิ่งแวดล้อมที่สวยงามมากโดยเฉพาะพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า เราจะเก็บไว้ในความทรงจำจนกว่าชีวิตจะหาไม่

นางสาวจิตรินทร์ แก้วเหลี่ยม
ประสบการณ์ล้ำค่าที่หาไม่ได้ในห้องเรียน เราเรียนรู้ศิลปะบนปลายนิ้วมือพร้อมกับเสียงเพลงที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศอันแสนจะอบอุ่นรอบๆกองไฟ ฉันได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆจากผองเพื่อน และอาจารย์รุจโรจน์มากมายเพื่อปรับใช้วันเวลาข้างหน้า ประทับใจกิจกรรมนี้ ที่ทำให้เราเรียนรู้กันด้วยใจ ผูกพันกัน รู้จักการให้และรักกันมากขึ้น สวนกระแสโลกเทคโนโลยีในปัจจุบันที่จะหามิตรภาพได้ยากขึ้นทุกที

นายชาญณรงค์ บุญเรือง
ดีใจ และภูมิใจกับการไปเที่ยวครั้งนี้ เพราะเราได้รับประสบการณ์ที่ดีมากๆไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ร่วมกิจกรรม วาดรูป ฟังเพลง และได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เย็นๆ ริมเขื่อน ในส่วนกิจกรรม AAR สนุกมากๆ ขำๆ จนสุดท้ายๆ ซึ้งใจคร๊าบ.....

นายไชยยันต์ ช้างทอง
สนุก ได้ทำงานศิลปะในรูปแบบใหม่ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนาน ได้ทำงานศิลปะแบบไร้กฏเกณฑ์ ไม่ต้องมีหัวข้อ ไม่ต้องมีขอบเขตอยากทำอะไรก็ทำ เหนือกว่าผลงานที่มองเห็นก็คือได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในสถานที่ที่เปลี่ยนไปในสถานการณ์ที่ต่างกันจออกไป ได้เรียนรู้ ปฏิกริยาของคนรอบตัวเราว่าเขาเป็นอย่างไร สรุปใน การออกค่ายครั้งนี้ผมได้เรียนรู้ตัวเองเรียนรู้คนอื่นๆที่เรียนด้วยกันทำให้รู้จักกันมากขึ้น

นางสาวธนกมล บัวแย้ม
แค่รู้ว่า อ.รุจโรจน์จะพาออกไปเรียนนอกห้องเรียนก็ดีใจแล้วค่ะ เพราะอะไรที่ได้ออกไปอยู่นอกห้องสี่เหลี่ยมได้จะเริดมากๆ ก็นับวันรอว่าเมื่อไหร่จะได้ไปซะทีและแล้วก็มาถึงถึงแม้ถนนจะโคตรลำบากไปนิดแต่ก็คุ้ม เพราะสนุกมาก และสำหรับกิจกรรมที่อาจารย์เตรียมไว้ให้ก็ชอบมากๆ เพราะสามารถทำให้มีสามาธิได้อย่างไม่รู้ตัว ธรรมชาติก็สวย สรุปว่างานนี้ “ลั่นลา” มากๆ

นางประภาพรรณ ผมเพ็ชร
รู้สึกประทับใจ ได้ความรู้ และประสบการณ์จากการวาดภาพตามเพลง ด้วยการใช้นิ้วมือแทนพู่กัน รู้สึกว่าได้ปลดปล่อยเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจหลาย ๆ เรื่องไปกับเสียงเพลงท่ามกลางบรรยายกาศที่เย็นสบายกับเพื่อนพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวเทคโน 10 พร้อมกับได้ใช้นิ้วมือจุ่มสีแล้วทำให้เกิดเป็นภาพที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นภาพอะไร แต่ดูแล้วก็สวยตามสไตล์ของเรา ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราได้มาทำกิจกรรมที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าแค่นิ้วมือก็ทำให้เกิดภาพได้เหมือนกัน และที่ประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือ ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงาม และจะขอเก็บเอาภาพ ประสบการณ์และความรู้สึกที่ดีครั้งนี้ไว้ในความทรงจำตลอดไปจ๊ะว่า"ครั้งหนึ่งในชีวิต"

นายพิทยา อุมาลี
บรรยากาศ ที่อบอวนไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ ทำให้มีความสุข มีอิสระ ในการทำงานไม่ต้องคอยระวังว่างานที่ทำไปนั้นจะไม่ถูกต้อง ทำได้ตามใจชอบ รู้สึกปลดปล่อย ตั้งแต่มาเรียนมามีแต่เรื่องเครียด ๆ ด้วยเหตุอายุมากแว้วมัง อีกอย่างสมองต้องได้คิดในหลายเรื่อง ไม่ใช่เรื่องเรียนเรื่องเดียว ไหนจะงาน ไหนจะครอบครัว เลยทำให้คิดว่า เราคงทำอะไรได้ไม่ดีเท่าเด็ก ๆ แต่เมื่อก้าวเข้ามาแล้วก็ต้องสู้ต่อไปจนกว่าจะถึงที่สุด ขอบอกว่ากิจกรรมนี้ชอบมากและมีความสุขที่สุด

นางสาวระพีพัฒน์ เพชรพิจิตร
รู้สึกดีใจมากที่ได้มีการจัดแคมป์รอบกองไฟ ทีแรกไม่คิดว่าจะวาดรูปกลางคืน พอไดเลองทำแล้วรู้สึกว่าประทับใจมากเพราะไม่เคยทำมาก่อน เข้ากับบรรยากาศมากในตอนนั้นมากๆ ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีอีกนะ ...จุ๊บ...

นางสาวรัตนา พูลยอด
มีเรื่องราวต่างๆมากมายเกิดขึ้น ณ ค่ายแห่งนี้ มีทั้งเสียงหัวเราะและเสียงร้องไห้ แต่เบื้องหลังคราบน้ำตาก็เต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน มิตรภาพที่เกิดขึ้น เราจะจดจำไปอีกนาน ประทับใจค่ะ

นายวันชัย บุญตาปวน
แสงพระอาทิตย์รุ่งอรุณยามเช้า... อากาศหนาวเย็นสบาย... กลิ่นอบอวลของธรรมชาติที่แต่งแต้มสีสัน..ท่ามกลางบรรยากาศแมกไม้และภูเขาขนาดย่อม... ได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์สดชื่น... ช่างเป็นความสุขที่เกินกว่าคำบรรยาย เสมือนหนึ่งกับงานศิลปะที่ถูกวาดไว้..บนผืนฟ้า... ยากที่จะลบเลือน

นายศราวุฒิ ถ้วนถี่
มีความรุ้สึกดีกับการอยู่ค่าย 1 คืน อยากให้มีอย่างนี้อีก เพราะผมไม่เคยวาดรูปในสถานที่ ที่เป็นธรรมชาติ และทุกคนยังได้ทำกิจกรรมด้วยกันทำให้ความรู้รักกันมากขึ้น ชอบตอนให้พูกความรุ้สึกทำให้รู้ว่าทุกคนคิดยังไงกับเพื่อนทุกคน

นางสาวศศิวิมล มาอินทร์
ครั้งแรกที่รู้ว่าจะได้ออกมาเรียนข้างนอกห้องก็ดีใจมาก เพราะรู้ว่าที่อุทยานแก่งเจ็ดแควสวย เลยทำให้อยากมา เมื่อมาถึงทางเข้าอุทยาน ทางเข้าจะลำบากบ้างแต่เมื่อมาถึงก็รู้สึกชื่นใจเพราะสวยบรรยากาศดีมาก

นางศิริลักษณ์ เสน่หา
ความรู้สึกในการเข้าค่าย "เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ดีใจที่ได้รวมกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆไม่ว่า วาดรูป เล่นเกม(ชอบมาก) ร้องเพลง และการแสดงรวมพลังความคิดเพื่อแสดงความรู้สึกของเพื่อน(ดีมากๆ) เพราะได้เห็นรอยยิ้มของทุกๆคน ทั้งที่ทุกคนมีเรื่องทุกข์อยู่ในใจทั้งนั้น ไม่ใช้แค่ตัวเราเพียงคนเดียว และหวังว่าพวกเรา(ทั้งห้องนะจ๊ะ)จะได้ทำกิจกรรมแบบนี้อีกต่อไป(ตลอดทั้งคืนจะได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากๆ) รักพวกเราทุกคน(ทั้งห้อง)

นายสุพจน์ แก้วอ่อน
รู้สึกดีใจมากครับที่จะได้ไปทำกิจกรรมนอกสถานที่แบบนี้ ประทับใจท่านอาจารย์ทุกท่านที่ให้ความเป็นกันเองกับพวกเราทุกคน ประทับใจพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคน แม้ว่าบางอย่างเรายังขาดการเตรียมตัวบ้างแต่ทุกคนก็ช่วยกันอย่างเต็มที่ ประทับใจสถานที่ สวยงาม บรรยากาศดีมากๆ สุดท้ายอยากบอกว่าขอบคุณอาจารย์รุจโรจน์ครับที่มีกิจกรรมดีๆแบบนี้ให้พวกเราเทคโนฯรุ่น10 รักกัน และสามัคคีกันครับปม...

นางสาวเสาวลักษณ์ ชัยกุล
“แก่งเจ็ดแควสวยงามมากทีต้นไม้สูงเยอะมาก ทให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย ยามเช้ายังได้ชมความสวยงามของดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นบริเวณสันเขื่อนยามเย็นอากาศเย็นสบายไม่หนาวมาก ได้นั่งรอบกองไฟ ทำให้บรรยากาศในบริเวณอุทยานอบอุ่น”นี่คือความประทับใจของฉันที่จะไม่มีวันลืม

นางสาวอัจฉรียา นวลกลาง
บรรยากาศการเรียนรู้ที่ดี คืออยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม และผู้เรียนมีความรู้สึกผ่อนคลาย จึงจะทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ได้ตามวัตถุประสงค์ การมาละลายพฤติกรรมที่เขื่อนแควน้อย ทำให้เกิดสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนร่วมสาขาที่เน้นเฟ้นขึ้น มีความรู้สึกใหม่เกิดขึ้นหลากหลายกิจกรรมนี้นอกจากจะทำให้เกิดความคิดในเชิงสร้างสรรค์แล้ว ยังทำให้เกิดความเข้าใจในสาขาที่เรียนได้ลึกซึ่งขึ้นด้วย

นางอุทัยวรรณ สิงห์นนท์
รู้สึกสนุกตั้งแต่อาจารย์บอกจะพาไปเที่ยวเขื่อน จะได้ผ่อนคลายความตีงเครียดจากการเรียนและงานในหน้าที่ เดินทางแบบสบาย ๆ เมื่อถึงทางแยกเข้าเขื่อนถนนเป็นดินลูกรังฝุ่นตลบโชคดีว่าวันนี้ขับปิกอัพเลยแซงเพื่อน ๆ ได้มันส์มากเลยค่ะ ถึงที่พักเลือกทำเลกางเต้นท์ กลางคืนได้วาดรูปใต้แสงไฟ มีสมาธิในการแต่งแต้มสีสัน รูปที่ออกมาสวยที่สุดในชีวิต ตื่นตีห้าไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นกับอาจารย์แอ็ดและเพื่อน ๆ ประทับใจมากอยากจะมาอีกค่ะ

*********************************************************

26 พฤศจิกายน, 2551

คำสั้นๆ ที่เรียกว่า รัก





คนทุกคนเกิดขึ้นมาได้ เพราะ... ความรัก

ความรักของ พ่อและแม่ ทำให้เราได้เกิดมาดูโลกใบนี้

แต่คนบางคน ทั้งๆ ที่เกิดมาจากความรัก

แต่กลับไม่รู้จักความหมายที่แท้จริงของคำว่า..รัก





ความรัก... มีความหมายยิ่งใหญ่

แต่เมื่อเราได้รักใครสักคน เราจะได้รู้จักกับคำว่า.. รัก

แต่หากเราไม่ยอมเปิดใจของเรา

มัวแต่ปิดกั้นใจของตัวเอง ไม่ให้รักใคร

ก็เท่ากันว่าเราไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอกับสิ่งที่ดีๆ


ตลอดเวลาที่เรารับความรักจากผู้อื่น โดยที่ไม่ได้ให้ความรักกับใคร

เราก็คงไม่สามารถที่จะรักใครได้

ขนาดรักตัวเอง คุณยังจะทำได้หรือเปล่า ...ก็ยังไม่รู้


คำว่า รัก อาจหมายถึง ความเสียสละให้คนที่เรารัก

คอยดูแลและห่วงใยกัน ...เป็นความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน

เพราะเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รักเราก็มีความสุขแล้ว

ทว่า คำว่า รัก สำหรับแต่ละคน อาจมีความหมายที่ไม่เหมือนกัน

บางคน รัก เพราะอยากจะรัก ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน

บางคน รัก เพราะเหงา ต้องการคนมาห่วงใย

บางคน รัก เพราะมันไม่มีเหตุผลใดๆ

*************************************

หนาวนี้ มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนกันจ๊ะ




          อะแฮ่ม...ขอยืมมุกของพ่อหนุ่มอารมณ์ดีมาใช้หน่อย ว่าแต่ยามนี้ ที่หนาวมากน่ะ ไม่ได้มีแต่ลำปางเท่านั้นนะ เพราะข่าวหลายสำนักรายงานชัดแล้วว่า ลมหนาวเริ่มมาเยือนพี่น้องทางภาคเหนือของไทยกันแล้ววว

          ล่าสุด ก็แว่วๆ มาว่า 2 ด็อกเตอร์ชื่อดัง พร้อมโหรอีก 2 ท่าน ก็ออกมาพยากรณ์ตรงกันว่าหนาวครานี้ ประเทศไทยตอนบนจะได้สัมผัสกับหิมะเป็นครั้งแรกซะด้วย ส่วนคนกรุงก็ไม่ต้องกลัวน้อยหน้า เพราะอากาศจะหนาวที่สุดในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว

          โอ๊ะโอ.. อากาศหนาวๆ แบบนี้ เชื่อแน่ว่า ต้องมีใครแอบวางแพลนไปสัมผัสลมหนาวต่างถิ่นกันบ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะวิวสวยๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวหลายจังหวัดทางภาคเหนือ เฮ้อ.. ว่าแล้วก็นึกถึงหน้าหนาวคราวที่แล้วได้มีโอกาสไปดอยอินทนนท์ ที่อุณภูมิ 5 องศา หนาวอย่าบอกใคร แต่ก็สนุกมาก คิดถึงกิ่วแม่ปาน ปีนี้จะยังสวยงามเหมือนเดิมไหมหนอ ส่วนโปรแกรมท่องเที่ยวปีนี้ยังคงเงียบเหงา เพราะไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดีอ่ะนะ

          ว่าแต่ ใครมีแผนไปเที่ยวจังหวัดไหน กันบ้าง ช่วยมารายงานตัวกันหน่อยนะค่า (จะดูสิว่า ปีนี้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งไหน จะฮอตฮิตเป็นที่สู้ดด)







25 พฤศจิกายน, 2551

จะรู้ก็ต่อเมื่อ . . .

รูปสวย  




ข้อมูลจาก Forward mail
ภาพประกอบจาก Glitter.Kapook.com
โดยคุณ by chaos


          จะรู้ว่าโลกนี้ . . . มันกว้างใหญ่
          ก็ต่อเมื่อเราได้ . . . ออกเดินทาง


        
  จะรู้คุณค่าของอะไร . . . ในสักอย่าง
          ก็ต่อเมื่อเราได้ . . . เสียมันไป



                   


          จะรู้ความหมาย . . . ของฟ้าหลังฝน
          ก็ต่อเมื่อเราผ่านพ้น . . . มันมาได้ 


          จะรู้ว่ายังมีเรื่อง . . . อีกมากมาย
          ก็ต่อเมื่อเราเปิดใจ . . . ยอมรับมัน

          จะรู้ว่าในหนังสือ . . . มีอะไร
          ก็ต่อเมื่อเราได้ . . . ลองเปิดอ่าน



                    The image “http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/newimg/love/0803250415765317.gif” cannot be displayed, because it contains errors.


          จะรู้เวลา . . .  ของดอกไม้บาน
          ก็ต่อเมื่อเราเฝ้าตาม . . . อยู่อย่างนั้น


          จะรู้ว่าเสียงหัวเราะ . . . มันมีค่า
          ก็ต่อเมื่อเราเสียน้ำตา . . . ในสักวัน



                    The image “http://hilight.kapook.com/img_cms/dookdik/0803250415659021.gif” cannot be displayed, because it contains errors.


          จะรู้ถึงความในใจ . . . ของกันและกัน
          ก็ต่อเมื่อเราได้พูด . . . มันออกไป


          จะรู้ว่าอะไร . . . ที่เรียกว่าคิดถึง
          ก็ต่อเมื่อในความคิดคำนึง . . . มีใครสักคน



                    The image “http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/559-emoticon-5341.gif” cannot be displayed, because it contains errors.



          จะรู้ความหมายในคำรัก . . . สักหน
          ก็ต่อเมื่อมีใครบางคน . . . ให้หวั่นไหว



          จะรู้ว่าค่ำคืนนี้ . . . คงไม่เงียบเหงา
          ก็ต่อเมื่อทุกเรื่องเล่า . . . ได้มีโอกาสบอกไป


กินวิตามิน – เกลือแร่ แก้แพ้อากาศ



ผลไม้



          ลดอาการแพ้อากาศได้โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำเปล่ามากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญควรกินผักผลไม้สด เพื่อให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยลดการแพ้อากาศ

          วิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยลดการแพ้อากาศ ได้แก่

วิตามินซี ช่วยป้องกันและเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือด ป้องกันหวัดและการแพ้อากาศ แหล่งที่พบมาก ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม และสับปะรด

วิตามินอี ช่วยสร้างภูมิคุ้นกัน ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง แหล่งที่พบมาก ได้แก่ ธัญพืช ข้างกล้อง และรำข้าว

วิตามินเอ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างการทำงานของเซลล์เม็ดเลือด แหล่งที่พบมาก ได้แก่ ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง มะละกอ และน้ำมันตับปลา

สังกะสี (Zinc) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และป้องกันอนุมูลอิสระ แหล่งที่พบมาก ได้แก่ อาหารทะเล ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นม

ซิลิเนียม (Selenium) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แหล่งที่พบมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์ ธัญพืช จมูกข้าว รำข้าว เห็ด และกะหล่ำปลี


images

 

24 พฤศจิกายน, 2551

นอนไม่หลับ 33 วิธีนี้ช่วยได้

1. อย่าเข้านอนเพราะว่า "ถึงเวลานอนแล้ว" แต่จงเชื่อนาฬิกาในตัวคุณเอง ถ้าดูไม่ออกว่าตอนไหน ขอให้รู้ไว้ว่าร่างกายจะสื่อให้ทราบเมื่อถึงเวลา แต่ทว่า มนุษย์เรา ไม่รู้ ความหมายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งได้แก่ การหาวนอน อาการแสบตา ความรู้สึกประเภท "ลานหมด" หัวจะทิ่มลงท่าเดียว ส่วนหนังตา ก็หย่อน พาลจะหลับให้ได้…. ถ้ายังไม่รับ ทราบสัญญาณเหล่านี้ คุณก็จะพลาดรถไฟ สายเจ้าหญิงนิทรา และจะต้องรอไปอีกสองชั่วโมง จึงจะง่วงนอนอีกครั้ง เนื่องจากต่าง คนต่างก็มีช่วงจังหวะของตัวเอง จึงเปล่าประโยชน์ที่ คุณ จะเข้านอนแต่เนิ่น ๆ ถ้าคุณเป็นสมาชิกครอบครัว นอนดึก หรือรอจนดึกดื่น จึงเข้านอน ถ้าคุณเป็นพวกนอนหัวค่ำ

2. อย่านอนผิดเวลาทุกวัน คุณรับประทานอาหารประมาณเวลาเดิม ก็ขอให้เข้า นอน และ ตื่นนอนตามตารางเวลา เดิมเป็น ประจำด้วย มิฉะนั้นคุณก็เสี่ยง ที่จะง่วง นอนผิดเวลา

3. ทดลองหลับแว่บเดียว ทำเหมือนจิตรกรซัลวาดอร์ ดาลี ที่ดูเหมือนเป็น หนึ่งใน บรรดา ลูกสมุนของเทคนิค "แสงแว่บ" เรียกสติคืนมา นั่งบน เก้าอี้โซฟา มือถือ ช้อนชาคันหนึ่ง ตรงปลายเท้าของคุณวางจานโลหะ ไว้หนึ่งใบ เมื่อผล็อย หลับ มือก็จะปล่อยช้อนหล่นลงมาบนจานโลหะ ส่งเสียงดัง ซึ่งจะปลุกคุณให้ตื่น…. ในทางทฤษฎีถือว่า อาการของคุณปกติดี คำอธิบาย….เมื่อหลับตา คุณตัดข้อมูล ไม่ให้เข้าสู่สมองได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ควรฝึกวันละหลายครั้ง

4. พักกลางคัน ถ้าคุณไม่สนใจพักแป๊ปเดียวเพื่อให้ตนเอง กระปรี้กระเปร่า ก็ใช้วิธีนี้ นั่งท่าสบาย ๆ อยู่ที่โต๊ะ ทำงาน ของคุณ หนุนศีรษะบนแขนที่ไขว้ กัน หรือนอนท่าเหยียด ยาว หลับตาและปล่อยตัวตามสบาย 5 นาที เพื่อผ่อนคลาย ง่าย ๆ

5. สะสมการนอน "ช่วงสั้น" ใน วันทำงาน คงยากที่ จะนั่งสัปหงกหน้าแป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ตอน บ่ายอ่อน ๆ เก็บสะสมความอยากเอนหลังนาน ๆ เป็นชั่วโมง ครึ่งถึงสองชั่วโมง (ซึ่งเป็นหนึ่งวัฏจักรของการ นอนหลับพักผ่อน ที่เต็มอิ่ม) เอาไว้ชดเชยตอนบ่ายของวันสุดสัปดาห์ คุณจะได้พักผ่อนอย่าง อิ่มเอม ใช้หนี้ความเหนื่อยล้าตลอดสัปดาห์

6. บอกเลิกการตีเทนนิสหรือการออกกายบริหารที่ฟิตเนสทุกเย็นวันอังคาร นอกเสียจากว่าคุณไม่ กลัวนอนดึก การเล่นกีฬาตอนหัวค่ำยิ่งไม่เอื้อ ต่อการนอน เพราะทำให้ร่าง กายสดชื่นตื่นตัว แต่ก็อีกนั่นแหละ ต้องจับตาดูความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคน เพราะสิ่งที่ทำให้คนใกล้ตัว หลับบางที คือสิ่งที่กลับปลุกให้คุณตื่น

7. ลงมือฝึกชี่กง (ลมปราณ) ชี่กงเหมาะมากสำหรับสงบความคิดจิตใจ และขจัด ความอ่อนเพลีย ในไม่ช้าคุณจะเรียนรู้ที่จะทำท่าที่ชวนให้ง่วงนอนเป็น

8. รับประทานอาหารค่ำแต่หัวค่ำ คุณจะรู้สึกว่าเวลาช่วงค่ำยาวนานขึ้น ควรหลีก เลี่ยงการเข้านอน "ขณะยังย่อยอาหารอยู่" ปล่อยให้เวลาผ่านไป อย่างน้อย สอง ชั่วโมงหลังอาหารค่ำแล้วจึงค่อยนอน

9. ค้นพบความเพลิดเพลินและประโยชน์ของการเดินย่อยอาหารมื้อค่ำ

10. ละเว้นสารกระตุ้นต่าง ๆ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำชา….ความจริง ที่มนุษย ์ส่วนใหญ่ยังคงละเลยอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถจะรับและ มีปฏิกริยา โต้ตอบ พิเศษกับคาเฟอีนก็ตาม เพราะระบบเผาผลาญ บางคนต้อง ใช้เวลาสิบสอง ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อกำจัดกาแฟเพียงถ้วยเดียว ไม่น่าแปลกใจ ที่คำว่า "kawa" หรือ "กาแฟ" ในภาษาอาหรับ หมายถึง "ตัวทำลายความง่วง"

11. จงหาว ถ้าเกิดง่วงนอนและมีอาการหาวบ่อย ๆ การบังคับตนเองให้หาว จะช่วย ผ่อนคลาย ได้และทำให้อยากนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า ได้ยืดแข้งยืดขาด้วย

12. ดื่มเครื่องดื่มชาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการกล่อมประสาทอย่าง ชาคาโมมายล์ ลาเวนเดอร์….จะช่วยให้นอนหลับได้

13. ลดปริมาณอาหาร และ กลูไซด์ (อินทรียสารในคาร์โบไฮเดรต) ตอนมื้อค่ำ หลีกเลี่ยงน้ำตาล ของหวานที่หวานจัด น้ำผึ้ง น้ำอัดลม…. เพราะเสี่ยงที่จะ เสริม ให้ โลหิตมี ปริมาณกลูโคสต่ำกว่าปกติในตอนกลางคืน

14. รับประทานแอปเปิ้ล ผักกาดหอม และผลิตภัณฑ์จากนม ตามความเชี่อที่ว่า อาหารเหล่า นี้เป็นเพื่อนกับความง่วง เพราะประกอบด้วยสารหลักใน ตัวยาที่ออกฤทธิ์ วิตามินและเอ็นไซม์ที่เป็นสื่อกลางช่วยให้ง่วงเหงาหาวนอน ควรเลือกผลิตภัณฑ ์จากนมที่ย่อยได้ง่ายที่สุด อย่างโยเกิร์ต (นมเปรี้ยว) นมข้น และเนยแข็งสีขาว ดีกว่าพวกเนยแข็งที่ ไขมันสูงและผ่านการหมักเชื้อ สำหรับอาหารค่ำ ควรเลือกอาหารจำพวกปลานึ่ง ผักนึ่ง และผลไม้ที่ย่อยง่าย เลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีไขมัน ผลิตภัณฑ์จากหมูเนื้อ เครื่องเทศและเครื่องปรุงรส

15. ก่อนเข้านอนอย่าดื่มน้ำมากเกินไป แต่ให้ดื่มมาก ๆ ในระหว่างวันตั้งแต ่เวลา 18 นาฬิกาเป็นต้นไปจงลดการบริโภคของเหลว

16. ปกป้องตนเองให้พ้นจากเสียงรบกวนหาสำลีอุดหูหรือติดกระจกซ้อนสองชั้น ปูพรมตลอดห้อง ใช้เพดาน เก็บเสียง….เสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม ทีเราใช้ ชีวิต อยู่มีส่วนในการลด ทอนคุณภาพการนอนได้

17. หัวเราะวันละหลาย ๆ ครั้ง การหัวเราะเป็นกิจกรรมตามธรรมชาติและ เกิดขึ้นเอง ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลของระบบประสาท สำหรับบางคน "หัวเราะนาทีเดียวมี ค่าเท่ากับการ ผ่อนคลายร่างกายสี่สิบห้านาทีเต็ม"

18. การพักผ่อนนอนหลับเป็นเรื่องใหญ่ ที่นอนเป็นเรื่องสำคัญ จงหันไปเลือก ฟูก ขนาด 160 คูณ 200 ซ.ม. กว้างขวางกว่าฟูกมาตรฐานขนาด 140 คูณ 190 ซ.ม. หรือ ไม่ก็ไปหาฟูกแบบอเมริกัน เลือกตามชอบใจว่าจะเป็น คิงไซส์ ขนาด 190 คูณ 200 ซ.ม. หรือแคลิฟอร์เนียนคิงไซส์ ขนาด 180 คูณ 210 ซ.ม.

19. เพื่อความสมดุลสงบ เวลานอนควรตรวจสอบทิศทางที่ถูกต้อง สำหรับการวาง เตียงนอน คือให้ศีรษะหันไปทางทิศเหนือ เท้าไปทางทิศใต้ตามทิศทาง ของคลื่นแม่ เหล็กโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าให้ศีรษะหันไปทางทิศ ตะวันออก

20. ถ้าคุณต้องทาสีผนังห้องนอนใหม่ ขอให้ทราบด้วยว่าสีฟ้ากลาง ๆ เป็นสีสำหรับ การนอนที่ดีที่สุด

21. กรองแสงสว่างเหมือนกับการหรี่ศูนย์ความรู้สึดตื่นของเราค่อย ๆ หรี่จาก แสง สว่างจ้าให้มืดลงเรื่อย ๆ ลดไฟฟ้าในห้องนอนของคุณ หรือปิดตาสักครู่ ก่อน ดับไฟ คุณจะ ช่วยร่างกายให้ปฏิบัติหน้าที่ ง่ายขึ้นโดยช่วงเวลา เปลี่ยนแปลงคือ สองสามนาที และปฏิบัติกลับกันในตอนเช้า

22. ไม่ควรนำต้นไม้ใบเขียวไว้ในห้องนอน อย่างน้อยเวลากลางคืน หลีกเลี่ยง ไม่ให้ มาแย่งออกซิเจน

23. ใช้วารีบำบัด สปาบางแห่งเสนอวิธีบำบัดที่ช่วย ให้คุณค้นพบกุญแจ สำหรับการ นอนหลับใน โปรแกรม ประกอบด้วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ในสระว่ายน้ำ ที่ บรรจุน้ำทะเลอุ่น ๆ ตามด้วยเสียงดนตรีใต้น้ำ การแช่น้ำ ในอ่างจากุชซี่ที่ผสม หัวน้ำมันดอกลาเวนเดอร ์จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

24. อย่าให้ห้องนอนของคุณร้อนเกินไป จะดีที่สุดให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20 ถึง 25 องศาเซลเซียส

25. ควบคุมการหายใจขณะตื่นอยู่ ร่างกายเพิ่มการหายใจในระดับทรวงอกเอง โดยสัญชาตญาณ จงหายใจเข้าช้า ๆ และลึก ๆ โดยใช้ท้องอย่างไม่ต้องฝืน และ ต่อเนื่องกันราบ รื่น หายใจออกแล้วหยุดไว้สองวินาที ก่อนหายใจใหม่ อีกครั้ง การหยุดช่วงสั้น ๆ นี้มีบทบาททำให้ระบบประสาทสงบลง ให้ปฏิบัติ การหายใจ ในท่านอนเหยียดยาว ก่อนนอน

26. นวดตัว โดยเน้นที่เท้า กลุ่มเส้นประสาท เส้นโลหิต หรือต่อมน้ำเหลือง ด้วยน้ำมันหอม ระเหยผสมลงไปในน้ำมันฐาน หรือครีมที่เป็นกลาง ถ้าชอบจะ เพิ่ม น้ำมันหอมระเหย (ดอกลาเวนเดอร์ ดอกมาร์จอแลน ดอกบาซิลิก หรือเนโรลี) โดยหยดผสมไปกับน้ำมันฐาน (น้ำมันหอม ระเหยมากที่สุด 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันฐานถ้าเป็นไปได้ ใช้ชนิด บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามธรรมชาติ) เทคนิค อื่นในการคลาย เครียดได้แก่ การใช้ฝ่ามือทั้งสองนวด โดยกางนิ้วออก นวดศีรษะเบา ๆ ไล่จากคางขึ้น ไปถึงหน้าผาก แล้วย้อนกลับ ลง มาที่ท้ายทอย คุณนวดที่หางตาได้ ด้วยเช่นกัน

27. ฝึกการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ วิธีนี้ช่วยลดภาวะตึงเครียด สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ การนอนง่ายคือบังคับควบคุม ความรู้สึกของสายตาและ ไม่คิดอะไรอีกต่อไป ได้สำเร็จ ขณะ นอนหลับ สัมผัสทั้งห้าของเราถอดสายปลั๊ก ตามธรรมชาต ิเริ่มต้น จากการมอง การรับกลิ่น การรับรส การสัมผัส และสุดท้ายการได้ยิน

28. อาบน้ำร้อน โดยค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นจาก 35 ถึง 39 องศาเซลเซียส การทำเช่นนี้มี ปฏิกริยากล่อมประสาทให้ง่วงนอน (สำหรับแปดในสิบหน) คุณสามารถเติมสมุนไพร สกัดลงในอ่างน้ำร้อนได้ แต่เพื่อความเพลิดเพลิน เท่านั้น เพราะมีเพียงความร้อนเท่านั้นที่ ทำปฏิกริยา คุณเพียงแต่แช่ เท้าใน น้ำร้อน ก็ได้ ซึ่งจะต่อเนื่องถึง อุณหภูมิของร่างกาย และมีผลผ่อนคลายกลุ่ม ร่างแหเส้นประสาท หรือเส้นโลหิต หรือหลอดน้ำเหลือง ให้ปฏิบัติ ก่อนเข้านอน

29. เพียงแค่วางมือทั้งสองข้างบนหน้าท้อง ความร้อนจากมือช่วยผ่อนคลาย อวัยวะภาย ในช่องท้องที่ ขวางการไหลเวียนพลังงาน

30. อย่าคาดหมายล่วงหน้า พยายามอย่านึกคิดล่วงหน้าถึง การนัดหมาย สำคัญทาง อาชีพการงานใน วันรุ่งขึ้น แนวคิดคือเข้านอนดึกด้วย ความกังวลจะทำให้ คุณหลับ ไม่ลง

31. ผ่อนคลายตัวเองด้วยการหลับตาและจินตนาการถึงการอาบน้ำ ฝักบัวเย็น ฉ่ำ ที่ราดรด ลงมาจาก ศีรษะแล้วไหลไปตามลำคอ นำพาความเครียดทั้งวัน ที่ผ่านมาให้ไหลไป ตามทางน้ำ หรือใช้วิธีหายใจลึก ๆ อย่างรู้สติเป็นชุด ๆ ผสานกับการคิดแต่ในแง่ดี ("ฉันยอมหลับอย่างวางใจ" "ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เต็มที่")

32. สามชั่วโมงก่อนนอน บอกเลิกกิจกรรมทุกอย่างที่คร่ำเคร่งและใช้สติปัญญา หยุดอ่านหนังสือถ้ามัน จุดจินตนาการของคุณให้ทำงาน ผลักดันให้ฝันหรือ ใช้ความคิดใคร่ ครวญ

33. พยายามคอยสังเกตสิ่งที่คุณทำแล้วหลับได้สนิทดี จะได้นำมาใช้ใหม่ ในค่ำคืน ที่นอนไม่หลับสักที

10 วิธีในการคลายความเครียด

1. ฟังเพลง หามุมสงบ
นั่งปล่อยใจให้ล่องลอยอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วฟังเพลง เบา ๆ โดยเฉพาะเพลงจำพวก Meditation ซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลากหลายแบบตามความต้องการ ทั้งเสียงของดนตรี บรรเลงหรือเสียงธรรมชาติ จำพวกเสียงคลื่น..เสียงน้ำตก..เสียงนกร้อง รับรองว่าจะช่วยสร้างสมาธิให้กลับคื่นสู่สมองและจิตใจได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ในช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ เชียวล่ะ
2. ฉายเดี่ยวดูภาพยนตร์
ขอแนะนำให้ฉายเดี่ยวแล้วตีตั๋วดูหนังดีๆ สักรอบ เพราะการไปดูหนังเนี่ยเป็นวิธีที่เวิร์คที่สุดที่จะปลดปล่อยความรู้สึกให้ ล่องลอยอย่างเป็นอิสระไม่จมอยู่กับปัญหา แถมระบายความอัดอั้นตันใจได้อย่างเห็นผล แต่ต้องถามตัวเองก่อนนะว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เช่น ถ้าอยากร้องไห้ก็ไปดูหนังรักเศร้าเคล้าน้ำตาแล้วก็ร้องไห้ออกมาซะให้พอ หรือถ้าเครียดจัดก็จงไปดูหนังตลกแล้วหัวเราะให้หลุดโลกไปเลย
3. โทรหาเพื่อนรู้ใจ
อย่าคิดว่าตัวเองจะแก้ปัญหาทุกปัญหาได้ดีไปซะหมด หัวใจสาวมั่นแม้จะแกร่งเพียงใดก็ยังต้องการที่พึ่งพิงเสมอ ยกหูโทรศัพท์หาเพื่อนรู้ใจสันคนแล้วระบายความรู้สึกให้เพื่อนได้รับรู้ เพราะการมีคนรับฟังและให้คำปรึกษา จะทำให้ชีวิตที่เอียงกะเท่เร่เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่า ไม่ได้แบกปัญหาอยู่คนเดียวในโลกไงล่ะ
4. เขียนไดอารี่
การเขียนไดอารี่เปรียบเสมือนการเปิดประตูอารมณ์ที่ปล่อยให้ความอัดอั้นตันใจต่างๆ ได้ไหลลงสู่หน้ากระดาษอย่างเป็นอิสระและเป็นส่วนตัวที่สุด เพราะการถ่ายเทความรู้สึกในใจออกมา จะทำให้จิตใจปรับสมดุลได้เร็วขื้น อีกทั้งระหว่างการเขียนไดอารี่นั้นยังถือเป็นการทบทวนความรู้สึกตัวเองที่ดี ที่สุดด้วย ส่วนข้อดีสุดเลิศอีกข้อก็คือ ไดอารี่เป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ที่สุด เพราะรับฟังเราเสมอและไม่เคยเอาความลับไปบอกต่อไงล่ะ

5. พลังแห่งการสัมผัส
ลองมองหาใครสักคนช่วยโอบกอดหรือสัมผัสเบา ๆ เวลารู้สึกเหนื่อยล้าดูสิ เพราะร่างกายคนเราเวลาถูกสัมผัสเนี่ย จะทำให้เกิดฮอร์โมนที่ชื่อ "อ๊อกซี่โทชิน" ซึ่งมีผลในการลดระดับความเหนื่อยและความเครียด ช่วยให้ร่างกายที่กำลังอ่อนล้ารู้สึกผ่อนคลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

6. สร้างอารมณ์ขัน
พยายามมองหาเพื่อนที่มีอารมณ์ขันช่วยกระตุ้นจิตใจที่แสนห่อเหี่ยวให้หัวเราะได้อีกครั้ง เพราะคนที่หัวเราะง่ายจะมีสุขภาพจิตที่ดี เนื่องจากการหัวเราะจะช่วยลดความดันโลหิตและระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลง (ฮอร์โมนคอร์ติซอล = ฮอร์โมนแสดงความเหนื่อยล้าในกระแสเลือด) แถมยังช่วยเสริมสร้างระดับของ "อิมโมโนโกลบูลินเอ" ซึ่งเป็นสารแอนตี้บอดี้ที่สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วยนะ เพราะฉะนั้นหัวเราะเข้าไว้ แล้วจะดีเอง

7. สูดกลิ่นหอม
รู้หรือเปล่าว่า...กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์มีผลในการช่วยปลุกประสาทสัมผัสให้สดชื่นตื่นตัว แถมยังกระตุ้นพลังงานในจิตใจได้เป็นอย่างดี เวลาเครียด ๆ ก็ลองสูดกลิ่นหอมของดอกไม้สิ อย่างกลิ่นกุหลาบ มะลิ ลาเวนเดอร์ หรือจะหยดน้ำมันหอมระเหยในน้ำอุ่นกำลังดี แล้วนอนแช่ตัวให้เพลินสักครึ่งชั่วโมงก็ได้ กลิ่นหอมจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้อย่างบอกไม่ถูกเชียวล่ะ

8. ไปตากอากาศ
หาเวลาหลบไปสูดอากาศบริสุทธิ์กับชีวิตท่ามกลางธรรมชาติสักพัก สิ หายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ ปล่อยสมองให้ว่างที่สุด แล้วก็นอนให้มากที่สุดเท่าที่อยากจะนอน เพราะบางทีความรู้สึกเหนื่อยล้าและหดหู่แบบไม่ทราบสาเหตุเนี่ยมันมาจาก ชีวิตที่ยุ่งเหยิงจนเกินไป เพราะฉะนั้นหลบไปนอนตากน้ำค้างดูดาวเสียบ้าง หัวใจจะได้ชาร์จพลังได้ดีขึ้น

9. หาสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน
ลองหาสัตว์เลี้ยงสักตัวมาเป็นเพื่อนเล่นก็ไม่ เลวนะ เพราะการให้เวลากับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด คุยเล่น หยอกล้อกับมันเสียบ้าง จะช่วยให้จิตใจอันแสนจะฟุ้งซ่าน สงบลงได้ แถมรู้จักการให้และมองโลกในแง่ดีมากขึ้นอีกต่างหาก ที่สำคัญยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วยนะ

10. จินตนาการแสนสุข
อีกทางเลือกสำหรับการบรรเทาความหดหู่ในส่วนลึก เป็นการดึงตัวเองออกจากโลกปัจจุบัน ทำได้โดยหลับตาแล้วหายใจลึก ๆ จากนั้นก็สร้างจินตนาการถึงความฝันที่วาดหวังเอาไว้ หรือแม้แต่ความหลังอันแสนสุขที่เคยมีการดึงความสุขจากจินตนาการมาใช้จะ ทำ ให้เกิดพลังสร้างสรรค์ในหัวใจ และยังช่วยสลายความเครียดข้างในได้เป็นอย่างดี ทำแบบนี้เงียบๆ สัก 5 นาที รับรองรู้สึกดีแบบทันตาเห็น

05 พฤศจิกายน, 2551

คุณเคยมีรักแบบนี้หรือไม่‏

เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า
เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว
มนุษย์เกิดขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว พร้อมด้วยหัวใจคนละ 1 ดวง
เมื่อ มนุษย์ 2 คนมาพบกัน เราจึงเรียนรู้ว่า 1 + 1 อาจจะยัง คงเท่ากับ 1
แต่ความโดดเดี่ยวนั้นหายไป ที่ เล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่โตไปกว่ากำปั้น
ที่ทำให้เราอยู่รวมกันบนโลกใบนี้อวัยวะที่สะกดด้วยอักษรง่ายๆ ใช้
แทนคำว่า "รัก" ได้เป็นอย่างดี

ความรัก ที่ประทับใจขอเก็บไว้ในใจแล้วอมยิ้มนะ
ความรัก ที่ไม่ประทับใจขอเก็บไว้เป็นประสบการณ์
ความรัก ที่ทำเพื่อผู้อื่นเป็นความภูมิใจแบบเก็บไว้เอง
ความรัก ที่ทำเพื่อตัวเองนั่นไม่เรียกว่ารัก
ความรัก ที่คุณเจอในอดีตขอให้เป็นความทรงจำที่แสนดี
ความรัก ที่คุณเจอในปัจจุบันขอให้สมหวังกันทุกคน
ความรัก ที่คุณจะเจอ ในอนาคตให้อธิษฐานกันเอาเองนะ

"ถ้าอ๊อกซิเจนทำชีวิตนี้ดำรงอยู่ได้
ความรักก็ทำให้การมีชีวิตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น"


เคยมั้ยที่จะมี คุณเคยมีคนแบบนี้ที่ไม่ ใช่พ่อแม่พี่น้องหรือยัง?
ตอบตัวเองให้ได้ว่าใคร

เคยมั้ยที่จะมี...คนให้อภัยคุณทุกอย่าง
เคยมั้ยที่จะมี...คนอยู่เคียงข้างคุณเวลาที่คุณเสียใจ
เคยมั้ยที่จะมี...คนจดจำความเป็นคุณได้ทุกอย่าง
เคยมั้ยที่จะมี...คนยอมเสียสิ่งที่รักเพื่อคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...คนเห็นคุณสำคัญกว่าเพื่อน
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยู่ด้วยเฉย ๆ แล้วมีความสุข
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่มั่นใจในคำว่ารักของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...ไม่อายเมื่อเดินข้างคุณ แม้คุณหน้าตาไม่ดีก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ทนคุณได้ไม่ว่า คุณจะด่า จะว่า เค้ ายังไง

เคยมั้ยที่จะมี...คนรับได้ในสิ่งที่คุณเป็นไม่ว่าจะมีคนมาว่าร้ายคุณยังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่เห็นความผิดของคุณเป็นเรื่องน่ารัก
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณอยากตื่นมาแล้วก็เจอกันสาส
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงเค้า แม้ว่าคุณไม่เหงาก็ตาม
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณคิดถึงคนแรก เมื่อคุณทุกข์ใจ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่คุณรู้ว่า เค้าช่วยให้คุณสบายใจได้
เคยมั้ยที่จะมี...คนแคร์คุณมากมาย ไม่ว่าคุณจะทำร้ายเค้า ยังไง
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณ
เคยมั้ยที่จะมี...คนที่ยังรักคุณแม้คุณไม่เห็นความสำคัญของเค้าเลย

ถ้าคุณเคยมีเค้าคนนี้อยู่จริง คุณควรถนอมเค้าไว้ให้ดี
ถ้าคุณสูญเสียเค้าไปคุณเองที่จะเป็นคนเสียใจ

ความหมายของหัวใจ เราอาจจะหาความหมายของทุกสิ่งมาตลอดชีวิต
แล้ววันหนึ่งเราก็พบว่า เพียงแค่มีบางสิ่ง ชีวิตก็มีความหมายแล้ว

01 พฤศจิกายน, 2551

อารมณ์ขัน ช่วยคุณได้ในการทำงาน







































เสียงหัวเราะและรอยยิ้มไม่เพียงแต่ทำให้คุณอารมณ์ดี มันยังทำให้การสื่อสารในที่ทำงานราบรื่นขึ้น และเพิ่มผลงานอีกด้วย แค่เพียงให้แน่ใจว่าคุณใช้อารมณ์ขันในแบบที่เหมาะกับบรรยากาศการทำงานก็พอ




















จากการสำรวจกลุ่มผู้บริหารของ Robert Half International พบว่า 91 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริหารเห็นว่า อารมณ์ขันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน มันช่วยคุณสร้างความปรองดองในกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวคุณ ทำให้มีการสื่อสารกันอย่างเปิดเผย สร้างบรรยากาศการทำงานในแง่บวกและช่วยผ่อนคลายความเครียด แม้แต่ในวันที่เคร่งเครียดที่สุดก็ตาม แต่ใช่ว่าอารมณ์ขันทุกอย่างจะได้รับการยอมรับในที่ทำงาน อารมณ์ขันควรเหมาะสมกับการทำงาน ไม่เป็นตลกร้ายหรือทำให้ใครสักคนต้องอับอาย ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางอย่างที่จะทำให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ทำเรื่องตลกแบบโง่ๆ

29 ตุลาคม, 2551

หลักการออกแบบ

ความกลมกลืน



ความกลมกลืนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้รูปแบบมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตลอดจนเนื้อหาสาระมีเพียงหนึ่งเดียว การออกแบบให้เกิดความกลมกลืนให้เหมาะสมจะทำให้การออกแบบนั้นออกมาสวยงาม ความกลมกลืนในการออกแบบมีดังนี้
1.1 ความกลมกลืนของเส้นและรูปร่าง
1.2 ความกลมกลืนของขนาดและทิศทาง ขนาดใหญ่จะให้ความรู้สึกว่าใกล้ ขนาดเล็กจะให้ความรู้สึกว่าไกลออกไปขนาดใกล้เคียงกันให้ความรู้สึกกลมกลืนกัน การออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางจะช่วยให้รู้สึกเคลื่อนไหวได้ด้วย
1.3 ความกลมกลืนกันของสีและบริเวณว่าง สีและบริเวณว่างมีความเกี่ยวข้องกับงานออกแบบมาก ทั้งนี้สียังให้ความรู้สึกระยะใกล้ไกลอีกด้วย ถ้าสีเข้มจะให้ความรู้สึกใกล้ สีอ่อนจะให้ความรู้สึกไกล บริเวณว่างในงานออกแบบจะให้ความรู้สึกสบาย แต่บริเวณแคบจะให้ความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ ดังนั้นความกลมกลืนกันของสีและบริเวณว่างจึงมีความสัมพันธ์กันในการออกแบบ
1.4 ความกลมกลืนกันของความคิดและจุดมุ่งหมาย แนวความคิดและความมุ่งหมายของผู้ออกแบบที่ต้องการจะแสดง หรือ สื่อความหมายก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ในการสร้างความกลมกลืนในการออกแบบ ความกลมกลืนกันของความคิดและจุดมุ่งหมายของการออกแบบ เช่น กองทัพมดกำลังขนอาหารไปในทิศทางเดียวกัน , ภาพของกองเชียร์ที่กำลังเชียร์กีฬาอยู่ข้างสนาม เป็นต้น การสร้างความกลมกลืนจะแสดงความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
1.5 ความกลมกลืนกันของลักษณะผิวและจังหวะ ลักษณะผิวหยาบจะให้ความรู้สึกมั่นคง แข็งแรง มีน้ำหนัก ส่วนลักษณะผิวละเอียดจะให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มและเบา สำหรับจังหวะนั้นในการออกแบบเป็นการสร้างสรรค์งานในรูปของการเคลื่อนไหว การซ้ำทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น ไม่น่าเบื่อ การออกแบบให้ลื่นไหลและการออกแบบต่อเนื่องแบบเพิ่มขึ้นหรือลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าลักษณะผิวและจังหวะมีความสัมพันธ์กันในการออกแบบให้กลมกลืน
...................................................

ขั้นตอนการออกแบบเว็บเพจ

ก่อนจะลงมือสร้างเว็บ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการออกแบบให้ดีก่อน นอกจากความสวยงามแล้วสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ
1. มีสารบัญแสดงรายละเอียดของเว็บเพจนั้น
2. เชื่อมโยงข้อมูลไปยังเป้าหมายได้ตรงกับความต้องการ
3. เนื้อหากระชับ สั้น ทันสมัย
4. สามารถตอบโต้กับผู้ใช้ได้ทันท่วงที
5. มีรูปภาพประกอบการนำเสนอที่ดี ไม่ควรมีรูปภาพมากเกินไป
6. เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง
7. ใช้งานง่าย
8. เป็นมาตรฐานเดียวกัน

...................................................................

องค์ประกอบการออกแบบเว็บไซต์

1. ความเรียบง่าย ได้แก่ มีรูปแบบที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้งานได้สะดวก ไม่มีกราฟิกหรือตัวอักษรที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ชนิดและสีของตัวอักษรไม่มากจนเกินไปทำให้วุ่นวาย
2. ความสม่ำเสมอ ได้แก่ ใช้รูปแบบเดียวกันตลอดทั้งเว็บไซต์ เช่น รูปแบบของหน้า สไตล์ของกราฟิก ระบบเนวิเกชันและโทนสี ควรมีความคล้ายคลึงกันตลอดทั้งเว็บไซต์
3. ความเป็นเอกลักษณ์ การออกแบบเว็บไซต์ควรคำนึงถึงลักษณะขององค์กร เพราะรูปแบบของเว็บไซต์จะสะท้อนถึงเอกลักษณ์และลักษณะขององค์กรนั้น ๆ เช่น ถ้าเป็นเว็บไซต์ของทาง ราชการ จะต้องดูน่าเชื่อถือไม่เหมือนสวนสนุก ฯลฯ
4. เนื้อหาที่มีประโยชน์ นื้อหาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในเว็บไซต์ ดังนั้นควร
- จัดเตรียมเนื้อหาและข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการให้ถูกต้อง และสมบูรณ์
- มีการปรับปรุงและเพิ่มเติมให้ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ
- เนื้อหาไม่ควรซ้ำกับเว็บไซต์อื่น จึงจะดึงดูดความสนใจ
5. ระบบเนวิเกชันที่ใช้งานง่าย ต้องออกแบบให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายและใช้งานสะดวก
- ใช้กราฟิกที่สื่อความหมายร่วมกับคำอธิบายที่ชัดเจน
- มีรูปแบบและลำดับของรายการที่สม่ำเสมอ เช่น วางไว้ ตำแหน่งเดียวกันของทุกหน้า
6. ลักษณะที่น่าสนใจ หน้าตาของเว็บไซต์จะต้องมีความสัมพันธ์กับคุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ เช่น คุณภาพของกราฟิกที่จะต้องสมบูรณ์ การใช้สี การใช้ตัวอักษรที่อ่านง่าย สบายตา การใช้โทนสีที่เข้ากันลักษณะหน้าตาที่น่าสนใจนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล
7. การใช้งานอย่างไม่จำกัด ผู้ใช้ส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้มากที่สุด
- เลือกใช้บราวเซอร์ชนิดใดก็ได้ในการเข้าถึงเนื้อหา
- สามารถแสดงผลได้ทุกระบบปฏิบัติการและความละเอียดหน้าจอต่างๆ กันอย่างไม่มีปัญหาเป็นลักษณะสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่มีจำนวนมาก
8. คุณภาพในการออกแบบ การออกแบบและเรียบเรียงเนื้อหาอย่างรอบคอบ สร้างความรู้สึกว่าเว็บไซต์มี….คุณภาพ ถูกต้อง และเชื่อถือได้
9. ระบบการใช้งานที่ถูกต้อง การใช้แบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูลต้องสามารถกรอกได้จริง ใช้งานได้จริง ลิงค์ต่างๆ จะต้องเชื่อมโยงไปหน้าที่มีอยู่จริงและถูกต้อง ระบบการทำงานต่างๆ ในเว็บไซต์จะต้องมีความแน่นอนและทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง
..........................................................................................

ข้อควรคำนึงในการออกแบบโฮมเพจที่ดี

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบโฮมเพจที่ดี
1. ความแปลก ความแตกต่าง (Contrast) คือแยกความแตกต่างที่อยู่บนจอภาพให้เห็นชัดเจน เช่นการใช้ตัวหนังสือ เส้น สี ขนาด ฯลฯ เพราะจะสามารถดึงดูดความสนใจได้ดี
2. การย้ำซ้ำ (Repetition) คือแบบแผนหรือสไตล์ของผู้ออกแบบ จะต้องมีลักษณะรูปแบบ สอดคล้องกันทั้งหมด
3. การจัดแถว การวางแนว (Alignment) คือ การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ต้องไม่สะเปะสะปะ ไร้เหตุผล ไม่ขัดกับความรู้สึก ของผู้อ่าน จัดให้ดูสะอาด
4. ความใกล้เคียง ความเกี่ยวเนื่อง (Proximity) คือ การจัดวางองค์ประกอบที่เกี่ยวเนื่องกัน ให้เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่ไม่ควรทำอีก เช่น รูปประกอบเรื่องมีขนาดใหญ่เกินไป รูปที่ใช้ประกอบไม่มีความละเอียดของภาพ อยู่ในระดับที่สามารถรับได้ เน้นคำนั้นคำนี้มากมายจนเกินไป *** ขออภัยโฮมเพจนี้จัดทำแบบเร่งรีบ เพื่อให้ทันกับการอบรม การออกแบบ อาจยังไม่ดี

***การบันทึกงาน***

- เก็บไฟล์ต้นฉบับไว้เสมอ (.psd เมื่อใช้ PhotoShop) เนื่องจากสามารถแก้ไขงานได้
- เลือกประเภทไฟล์ใช้งานให้เหมาะสมการ
บันทึกงานในนามสกุลต่างๆ
1. นามสกุล PSD เนื่องจากสามารถแก้ไขงานได้ แต่ภาพจะมีขนาดใหญ่
2.นามสกุล JPEG แสดงสีมากๆ เป็นภาพที่สมบูรณ์แล้ว ไม่เปลืองพื้นที่ แต่ไม่สามารถแก้ไขได้
3. นามสกุล GIF ภาพที่มีสีน้อย, ต้องการความคมชัดต่ำ ภาพที่ต้องการความคมชัดสูงๆ ภาพเป็นพื้นโปร่งเวลาใช้งานจะไม่ติดพื้น

การสร้าง blogger



1.การสร้าง blogger เข้าไปที่ http://www.blogger.com/ จะเกิดหน้าต่างขึ้นคลิกที่แถบลูกศรสีส้ม create your blog now
2.เกิดหน้าต่าง ขั้นที่ 1 create account พิมพ์รายละเอียดต่างๆให้ครบกด continue3.เกิดหน้าต่าง ขั้นที่ 2 name your blog พิมพ์รายละเอียดต่างๆให้ครบกด continue4.เกิดหน้าต่าง choose a template เพื่อเลือกลวดลายของหน้าต่างที่เราจะใช้เป็น web page มี 12 ลายให้เลือก เมื่อเลือกได้แล้วก็คลิก continue5.หลังจากนั้นจะเกิดหน้าต่าง your blog has been created คลิก start postingเพื่อเริ่มสร้าง blog ตอนนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น การสร้าง blogger แล้ว เพื่อนๆๆสามารถทำได้อย่างง่ายๆโดยวิธีตามนี้แล้ว ขอให้สร้าง blog กันได้ทุกคนนะ

23 ตุลาคม, 2551

14ที่สุดในชีวิต

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ ตัวเราเอง
2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอวดดี
3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกลวง
4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอิจฉาริษยา
5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา คือ การยอมแพ้ตนเอง
6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกตัวเอง
7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา คือ การถดถอยของตัวเอง
8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอุตสาหะวิริยะ
9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา คือ ความสิ้นหวัง
10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิตเรา คือ สุขภาพที่สมบูรณ์
11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ หนี้บุญคุณ
12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา การให้อภัยและความเมตตา
13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล
14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจมากที่สุด คือ การให้ทาน
ที่มา : นำมาจาก www.ikydot.com เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่อ